“Tahiti 80 Live in Bangkok 2018” เพอร์ฟอร์แมนซ์สุดเพอร์เฟกต์ในวันที่ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ
ใครเป็นแฟนเพลงตัวจริงของวงดนตรี Tahiti 80 คงพอจะทราบว่า โชว์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (5 ตุลาคม 2561) ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาเดินทางมาเปิดคอนเสิร์ตที่สยามประเทศ อีกทั้ง Tahiti 80 ยังมีความสัมพันธ์อันดีกับศิลปินไทยหลายคน ที่เห็นเป็นรูปธรรมที่สุดก็คงหนีไม่พ้น Sqweez Animal ที่พวกเขาเคยโปรดิวซ์อัลบั้ม ไม่มีที่มา เมื่อปี 2554 ที่มีเพลงดังอย่าง “พรุ่งนี้ที่ดีกว่า” หรือ “คำบางคำ” มาแล้ว และหลายคนก็รอคอยที่จะได้สัมผัสประสบการณ์การชมการแสดงสดของวงอินดี้ป็อปจากประเทศฝรั่งเศสวงนี้อีกครั้ง
คอนเสิร์ต Tahiti 80 Live in Bangkok 2018 จึงถือกำเนิดขึ้นท่ามกลางความตื่นเต้นของเหล่าสาวกที่บางคนติดตามวงมากว่า 2 ทศวรรษ แต่ภายใต้ความตื้นตันใจนั้น ก็มีความพะวงอยู่เนืองๆ เนื่องด้วยสถานที่จัดงานคือ Zen Event Gallery ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งเคยมีคอคอนเสิร์ตหลายคนประสบพบเจอกับปัญหาในเรื่องซาวด์อย่างหนัก แต่ท้ายที่สุด ทีมงาน Sanook! Music ก็ยืนต่อคิวเพื่อเข้าสู่ภายในฮอลล์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ขออนุญาตข้ามการพูดถึงโชว์เปิดของ 3 สมาชิกแห่งวง Pills ไปสู่โชว์ที่สองโดย Sqweez Animal กันเลย เนื่องจากทีมงานติดภารกิจจนไม่สามารถเดินทางไปทัน วิน ศิริวงศ์ พร้อม SQ Crew อีก 5 ชีวิตไล่เรียงเซตลิสต์ที่พาย้อนกลับไปสู่เพลงในความทรงจำของทุกคนทั้ง “พรุ่งนี้ที่ดีกว่า”, “ฉันไม่เหงา”, “เริ่มใหม่” และ “ไม่เคยจะห่างกัน” ที่ทำเอาเราและทุกคนในฮอลล์ฟินไปตามๆ กัน
ถึงเวลาพระเอกของงานอย่าง Tahiti 80 แล้ว 3 สมาชิกที่เริ่มต้นทำวงมาด้วยกันอย่าง Xavier Boyer (ร้องนำ, กีตาร์, คีย์บอร์ด), Pedro Resende (เบส, ซินธิไซเซอร์) และ Médéric Gontier (กีตาร์) ก้าวขึ้นสู่เวทีพร้อมด้วยอีก 2 สมาชิกที่ร่วมทัวร์มาด้วยกันอย่าง Raphaël Léger ในตำแหน่งมือกลอง และ Hadrien Grange มือคีย์บอร์ดและเพอร์คัสชั่น ความคึกคักจัดหนักตั้งแต่แรก “Unpredictable”, “Sound Museum”, “Easy” คือ 3 เพลงแรกที่พวกเขาหยิบมาโชว์ในคราวนี้ ก่อนจะประเดิมเล่นเพลงใหม่ล่าสุดที่เพิ่งปล่อยออกมาสดๆ ร้อนๆ อย่าง “My Groove” ให้ได้โยกกันอย่างต่อเนื่อง
เรายังคงประจำการอยู่ ณ ตำแหน่งเดิม หน้าสุดเวที เพอร์ฟอร์แมนซ์บนเวทีของ Tahiti 80 ส่งพลังมาถึงเราแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ยืนดูฉากหลังที่ใช้ระบบแมนนวลได้อย่างน่าทึ่งแบบเพลินๆ ด้วยการให้ทีมงานค่อยๆ เทสีต่างๆ ลงมาบนผืนผ้า ทั้งขาว เขียว เหลือง น้ำเงิน ทับกันเรื่อยๆ จนอาจเรียกได้ว่าเป็นงานศิลปะชิ้นหนึ่งก็ว่าได้ … จุดนี้ถือว่าชอบเป็นการส่วนตัวเลยล่ะ
แม้ว่าเอเนอร์จี้ของวงจะสุดเหวี่ยงมากแค่ไหน แต่ระบบเสียงที่ได้ยินกลับแห้งและไม่มีมิติ ดูเหมือน Tahiti 80 จะมีปัญหากับซาวด์อยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะมือเบสอย่าง Pedro ที่สีหน้าท่าทางออกอาการอยู่พอสมควร อย่างไรก็ตาม พวกเขายังเดินหน้าสร้างความสุขให้แฟนเพลงชาวไทยต่อไป กับลิสต์เพลงอย่าง “To Anyone”, “Changes”, “Strung” และเพลงช้าๆ อย่าง “Hurts” ที่จับใจเอามากๆ
การที่เรายืนชมคอนเสิร์ตอยู่ด้านหน้าอาจทำให้ได้ยินซาวด์จากบนเวทีของแต่ละชิ้นเครื่องดนตรีค่อนข้างชัดเจน แต่ก็อย่างที่กล่าวไปเมื่อสักครู่ ความหนักแน่น ย่านต่ำ ย่านสูง ดูสะเปะสะปะไร้ทิศทางพอสมควร อีกทั้งยังเกิดเหตุไมโครโฟนหอนอยู่เป็นระยะ และค่อยๆ หนักข้อขึ้นเรื่อยๆ เมื่ออาการดังกล่าวเกิดขึ้นแทบจะทุกเพลงเลยทีเดียว จนช่วงหลังๆ ของโชว์ดูเหมือนว่าจะมีการปรับเสียงไมค์ของ Xavier ให้เบาลง และกลายเป็นว่าฟังฟร้อนต์แมนสุดเท่ไม่ออกทั้งตอนพูดและตอนร้องไปเสียอีก
จะว่ากันตามจริง เรายังคงสนุกและมีความสุขอยู่กับโชว์ที่อยู่ตรงหน้า ยิ่งเมื่อเข้าช่วงขยับแข้งขยับขา จากล็อตเพลงชวนเต้นไม่ว่าจะเป็น “A Love From Outta Space”, “Matter of Time”, “1,000 Times” โดยเฉพาะเพลงหลังนี่เรียกเสียงกรี๊ดจากบรรดาสาวกได้หนักหน่วงทีเดียว โดยเฉพาะช่วงที่ วิน Sqweez Animal ทำแบบเดียวกันกับที่ Xavier ทำไว้ในช่วงแรกๆ ด้วยการขึ้นมาแจมด้วยเสียเลย โยกเพลินจนรู้สึกว่าเหงื่อออกผิดปกติ อ้าว! แอร์ดับเสียอย่างนั้น เดาได้ทันทีว่าเครื่องปรับอากาศน่าจะดับพร้อมกับที่ห้างสรรพสินค้าปิดให้บริการ ทันใดนั้นเอง กลิ่นสีที่ในตอนแรกเหมือนว่าแอร์จะดับกลิ่นไว้ ก็ส่งต่อมาถึงรูจมูกอย่างไม่รีรอ
ถึงจะร้อนระอุจนแทบหายใจไม่ออก และแสบจมูกสุดๆ ในตอนนั้น แต่เรายังเพลินๆ แบบพยายามไม่สนใจกับสิ่งรอบข้างไปกับอีก 3-4 เพลงในช่วงท้ายๆ อย่าง “Jokers”, “Let Me Be Your Story” (ซึ่งแอบเสียดายที่ไม่ได้ฟังเครื่องเป่าอย่างในสตูดิโอเวอร์ชั่น), “Coldest Summer” ที่แฟนๆ ร้องตามกระหึ่ม รวมถึง “Crush” คิดในใจว่า เราร้อนมากเท่าไหร่ Tahiti 80 คงร้อนกว่าหลายเท่านัก ทั้งพลังงานที่ต้องใช้บนเวที แถมยังมีไลท์ติ้งมาส่องกระทบใบหน้าแบบจังๆ อีก ทนกันอีกสักนิดน่า เพราะเดินทางมาถึงช่วงอังกอร์แล้ว
เราค่อนข้างนับถือในความเป็นมืออาชีพของ Tahiti 80 เพราะไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นก็ตาม พวกเขายังใส่เต็มในช่วงอังกอร์ด้วยใบหน้าอันยิ้มแย้ม แถมให้อีกถึง 4 เพลงทั้ง “Open Book” เพลงจังหวะ 6/8 ที่ทั้งเท่และเศร้าในเวลาเดียวกัน, “Natural Reaction” และ “Big Day” ก่อนที่พวกเขาจะส่งท้าย Tahiti 80 Live in Bangkok 2018 ครั้งนี้ด้วย “Heartbeat” ที่ไม่เล่นก็คงจะไม่ได้ ฟังสดๆ รอบเดียวเหมือนจะไม่พอ ดีต่อใจเอามากๆ
หลายคนคงจะทราบถึงดราม่าต่างๆ นานาตามโลกโซเชียลกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะเรื่องซาวด์อันสืบเนื่องมาจากข้อจำกัดต่างๆ ของสถานที่จัดแสดง Zen Event Gallery อาจไม่เหมาะกับการจัดคอนเสิร์ตอีกต่อไปแล้ว หรือหากผู้จัดรายใดสนใจพื้นที่แห่งนี้ คงต้องทำการบ้านหนักกันสักหน่อย
เรื่องซาวด์อาจเกิดจากปัจจัยเฉพาะทาง แต่ปัญหานอกเหนือจากนั้นน่าจะเกิดขึ้นจากการบริหารจัดการเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเครื่องปรับอากาศ ซึ่งอากาศที่ไม่ถ่ายเทอาจส่งผลให้ผู้ที่อยู่ภายในฮอลล์เป็นลม หรืออาจเป็นอะไรมากกว่านั้นในสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน เรื่องสีที่ส่งกลิ่นค่อนข้างแรงมาก หรือแม้กระทั่งเรื่องจำนวนลิฟต์ที่แปรผกผันกับจำนวนผู้ชม หลายคนต้องรอจนกระทั่งขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอสไม่ทัน แม้คอนเสิร์ตจะจบตั้งแต่ห้าทุ่มเศษก็ตาม เรื่องราวเหล่านี้คงเป็นบทเรียนสำคัญที่ทางผู้จัดคงได้เรียนรู้เป็นอย่างดี
ฟังเพลงของ Tahiti 80 กันต่อได้ที่นี่
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าปัญหาจะหนักหนาสาหัสเพียงใด หรืออาจจะเป็นความโชคดีที่เรามีหลุดทะลุเข้าไปถึงด้านหน้าสุดของเวที ทำให้เราสัมผัสได้ถึงทุกย่างก้าวบนเวทีของ Tahiti 80 สัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า เพอร์ฟอร์แมนซ์ของวงดนตรีวงนี้ยอดเยี่ยมแค่ไหน และพวกเขาตั้งใจที่จะมอบความสุขให้กับแฟนเพลงโดยไม่สนใจว่าจะต้องเผชิญหน้ากับปัญหาอะไรบ้าง
นี่แหละ … ศิลปินตัวจริงเสียงจริง หวังว่าจะมีโอกาสได้ชมการแสดงสดของ Tahiti 80 อีกครั้ง ในวันที่ทุกอย่าง … เป็นใจ
Story by: Chanon B.
https://www.sanook.com/music/2402237/
เอาใจคอเพลงอินดี้ป็อปยุค ‘90s กับคอนเสิร์ตจาก Tahiti 80 วงซินธ์ป็อปในตำนานของฝรั่งเศส ที่พร้อมเดินสายจัดการแสดง Asia Tour ปี 2018 ในประเทศไทยภายในงาน Chang Music Connection presents Tahiti 80 Live in Bangkok 2018 ซึ่งกำลังจะจัดขึ้นในวันที่ 5 ตุลาคมนี้ที่ Zen Gallery ณ ศูนย์การค้า Central World ภายใต้การดำเนินการของ SpicyDisc และ DudeSweet
จากวงอินดี้เล็ก ๆ ของฝรั่งเศส Tahiti 80 ได้นำพาเพลงของพวกเขาข้ามน้ำข้ามทะเลมาไกลถึงอเมริกา โดยเป็นที่ชื่นชอบของนักฟังเพลงแนวอินดี้จำนวนไม่น้อย สมาชิกแต่ละคนก็มีความสามารถล้นเหลือ นอกจากหายคนจะร้องเพลงได้ดีแล้ว ยังเล่นเครื่องดนตรีได้หลายชนิด และเล่นได้ดีในแบบที่เล่นแทนตำแหน่งกันได้สบาย ๆ ในขณะที่ฝั่งนักวิจารณ์เพลงก็ให้ความสนใจ และเทคะแนนให้อย่างท้วมท้น จนเรียกได้ว่าเป็นขวัญใจของคออินดี้อันดับต้น ๆ เลยก็ว่าได้
สำหรับคอนเสิร์ตครั้งนี้ จึงนับเป็นโอกาสดีที่แฟนเพลงจะได้ร่วมสนุกกับวงดนตรีขวัญใจอินดี้ทั่วโลกอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ยังจะได้ฟังเพลงเพราะ ๆ จากวง Pills และ วิน Sqweez Animal อีกด้วย รับรองว่าทุกคนจะได้สัมผัสประสบการณ์สุดมันส์ ดื่มด่ำไปกับดนตรีวงโปรดอย่างประทับใจและได้แรงบันดาลใจดี ๆ กลับบ้านไปอย่างแน่นอน
Share: